หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นกับคำว่า PrEP กันเนอะ? PrEP นี่แหละคือยาต้านไวรัสสำหรับคนที่ไม่มีเชื้อ HIV ใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อก่อนที่จะสัมผัสไวรัสนี้ได้เลยล่ะ

ใครที่ควรกินยา PrEP?

  • คนที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยกับคนที่ติดเชื้อ HIV และยังควบคุมไวรัสไม่ได้
  • คนที่ไม่ใช้ถุงยางอนามัยเวลามีเพศสัมพันธ์
  • คนที่เคยมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน หรือซิฟิลิส ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
  • คนที่ใช้สารเสพติดก่อนหรือระหว่างมีเพศสัมพันธ์
  • คนที่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับคนอื่น
  • คนที่เคยใช้ยา PEP (ยาป้องกันหลังสัมผัสเชื้อ HIV) แล้วยังมีพฤติกรรมเสี่ยง

ยา PrEP มีประสิทธิภาพแค่ไหน?

ตามข้อมูลจากกรมควบคุมโรคของสหรัฐอเมริกา บอกว่ายา PrEP ถ้ากินตามที่แพทย์แนะนำทุกวัน จะช่วยป้องกัน HIV ได้ถึง 99% เลยล่ะ!

ยา PrEP ที่มีในไทยมีอะไรบ้าง?

ในไทยเรามียา PrEP 2 สูตรคือ

  1. TDF/FTC (Tenofovir Diphosphate 200mg และ Emtricitabine 300mg)
  2. TAF/FTC (Tenofovir Alafenamide 25mg และ Emtricitabine 300mg) ทั้งสองสูตรกินได้ทั้งตอนท้องว่างและพร้อมอาหาร ไม่ต้องห่วงเรื่องระดับยาในร่างกาย

ต้องรู้อะไรบ้างก่อนเริ่มยา PrEP?

ก่อนเริ่มกินยา PrEP นะ คุณจะต้องไปตรวจเลือดก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ติดเชื้อ HIV และต้องไปพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอทุก 1-3 เดือน เพื่อตรวจตามผลและติดตามสุขภาพ

ใช้ PrEP แล้วต้องใช้ถุงยางอนามัยด้วยไหม?

ถุงยางอนามัยมีประสิทธิภาพป้องกัน HIV ราว 63-91% การใช้ถุงยางร่วมกับ PrEP นอกจากจะช่วยเพิ่มโอกาสในการป้องกัน HIV แล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ที่ PrEP ไม่สามารถป้องกันได้ด้วย

ยา PrEP มีผลข้างเคียงไหม?

ส่วนใหญ่แล้ว ยา PrEP ไม่ค่อยมีผลข้างเคียงรุนแรง ผลข้างเคียงจะหายไปภายในเดือนแรกหลังเริ่มกินยา และส่วนใหญ่จะเป็นอาการเล็กน้อยอย่างคลื่นไส้หรือปวดศีรษะ

ถ้ากินยา PrEP ไม่สม่ำเสมอจะเป็นยังไง?

รับประทานยา PrEP สม่ำเสมอตามที่แพทย์สั่ง เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกัน HIV ถ้ากินไม่สม่ำเสมอ อาจทำให้ยามีประสิทธิภาพลดลง

PrEP กับ PEP ต่างกันยังไง?

PrEP กิน “ก่อน” สัมผัสเชื้อ HIV PEP กิน “หลัง” สัมผัสเชื้อ HIV ในกรณีฉุกเฉิน และต้องกินภายใน 72 ชั่วโมงหลังเสี่ยงติดเชื้อ และกินต่อเนื่องนาน 28 วัน

บทความที่เกี่ยวข้อง

  • HIV คือไวรัสที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกัน หากปล่อยไว้ไม่รักษาจะพัฒนาเป็น AIDS ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคแทรกซ้อน เช่น วัณโรคหรือมะเร็งบางชนิด การป้องกันทำได้ด้วยการใช้ถุงยางอนามัยหรือทานยา PrEP และหากรักษาอย่างถูกต้อง ผู้ติดเชื้อสามารถมีชีวิตที่ปกติและสุขภาพดีได้

  • เรื่องราวของการเปลี่ยนแปลงและการยอมรับของฉัน เมื่อได้รับข่าวว่าติดเชื้อเอชไอวี จากความโกรธและความสับสน สู่การค้นพบว่าเอชไอวีไม่ใช่จุดจบของชีวิต ด้วยการรักษาที่ถูกต้องและการดูแลตัวเองอย่างดี ฉันสามารถมีชีวิตที่มีความสุขและเป็นปกติได้ ความเข้าใจในแนวคิด "U = U" เปิดโอกาสให้ฉันมีความรักและความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ แม้ต้องเผชิญกับการตัดสินจากคนอื่น แต่ความรู้และการสนับสนุนจากคนรอบข้างทำให้ฉันแข็งแกร่งขึ้น

  • เซ็กซ์อย่างปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ! เรียนรู้ **4 วิธีปฏิบัติ** ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น สวมถุงยาง, มีคู่เดียว, ลดจำนวนคู่นอน และสื่อสารอย่างเปิดกว้าง ปฏิบัติตามเพื่อสุขภาพที่ดีและปลอดภัย!