โดย อ.พญ.กัณฑริดา ศรีพานิชกุลชัย
ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
U=U คือหลักการที่ได้รับการยืนยันทางการแพทย์แล้วว่า ผู้ติดเชื้อ HIV ที่เข้ารับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสอย่างสม่ำเสมอจนมีปริมาณไวรัสในเลือดน้อยมาก (Undetectable) จะไม่สามารถส่งต่อหรือแพร่เชื้อ HIV ไปให้คู่นอนของตนเองผ่านการมีเพศสัมพันธ์ได้ (Untransmittable) หลักการนี้ไม่เพียงแต่เปลี่ยนชีวิตของผู้ติดเชื้อ แต่ยังสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และลดการตีตราในสังคมอีกด้วยค่ะ
คำจำกัดความของ U=U
-
U แรก (Undetectable) หมายถึง “การตรวจไม่พบเชื้อ” ในเลือด หรือก็คือ ผู้ติดเชื้อ HIV ที่เข้ารับการรักษา กินยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ จนกดไวรัสสำเร็จ
-
U ที่สอง (Untransmittable) หมายถึง “การไม่สามารถแพร่เชื้อ” หรือก็คือ ผู้ติดเชื้อ HIV ที่กดไวรัสสำเร็จ จะไม่ส่งต่อเชื้อสู่ผู้อื่นได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์
การรักษาใช้เวลานานเท่าไรถึงจะเข้าสู่ภาวะ U=U?
โดยทั่วไป หากผู้ติดเชื้อ HIV รับประทานยาต้านไวรัสอย่างสม่ำเสมอและตรงเวลา จะใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน ในการกดปริมาณไวรัสในเลือดจนถึงระดับที่ตรวจไม่พบ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลเพื่อยืนยันผลเลือดของตนเอง
ระดับที่เรียกว่า “ตรวจไม่พบเชื้อ” คือเท่าไร?
ขึ้นอยู่กับเครื่องมือของแต่ละห้องปฏิบัติการ โดยทั่วไปจะหมายถึงระดับไวรัสที่น้อยกว่า 40 หรือ 50 copies ต่อเลือด 1 ซีซี (cc) และจากการศึกษาในปัจจุบันพบว่า ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เข้ารับการรักษา จนกดระดับไวรัสในกระแสเลือดได้ต่ำกว่า 200 copies ต่อ เลือด 1 ซีซี (cc) ก็จะไม่ส่งต่อเชื้อให้กับคู่เพศสัมพันธ์ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เข้ารับการรักษา จนกดระดับไวรัสในกระแสเลือดได้ต่ำกว่า 200 copies ต่อ เลือด 1 ซีซี (cc) จะถือว่าเป็น Undetectable หรือ ตรวจไม่พบเชื้อ และจะไม่ส่งต่อเชื้อให้กับคู่เพศสัมพันธ์ หรือ Untransmittable
แม้จะเป็น U=U แล้ว ทำไมถุงยางอนามัยยังจำเป็น?
จริงอยู่ที่ U=U สามารถป้องกันการแพร่เชื้อ HIV ได้ แต่การใช้ถุงยางอนามัยยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะสามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ได้ ตัวอย่างเช่น
-
ซิฟิลิส
-
ไวรัสตับอักเสบ A, B, และ C
-
หนองใน และหนองในเทียม
-
เริม และหูดหงอนไก่
ดังนั้น แม้จะไม่ติดเชื้อ HIV หรือมีสถานะเป็น U=U แล้ว การป้องกันก็ยังเป็นสิ่งสำคัญเสมอ
ความสำคัญของการสื่อสารเรื่อง U=U
ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ U=U มีประโยชน์อย่างมากในหลายมิติ ได้แก่
-
สร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตคู่ ช่วยให้ผู้ติดเชื้อและคู่รักสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างมั่นใจ ปราศจากความกังวลเรื่องการแพร่เชื้อ และสามารถใช้ชีวิตคู่ สร้างครอบครัวได้ไม่ต่างจากคนที่ไม่มีเชื้อ
-
ลดการตีตราและการเลือกปฏิบัติ ทำให้สังคมเข้าใจว่า HIV เป็นโรคที่รักษาได้ ผู้ติดเชื้อสามารถมีสุขภาพแข็งแรงและใช้ชีวิตได้เหมือนคนทั่วไป
-
กระตุ้นให้คนกล้ามาตรวจเลือด เมื่อผู้คนรู้ว่า HIV สามารถควบคุมได้ด้วยการรักษา ก็จะกล้าที่จะมาตรวจเพื่อหาเชื้อมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่การรักษาที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
-
เป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน คู่รักสามารถมอบกำลังใจให้กันได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
ทำลายความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับ HIV
ความเชื่อที่ว่าผู้ติดเชื้อ HIV คือผู้ที่มีพฤติกรรมสำส่อนทางเพศเป็นความคิดที่ล้าสมัย และไม่เป็นความจริง ในความเป็นจริงแล้ว ทุกคนที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันล้วนมีความเสี่ยง บางคนอาจมีคู่รักเพียงคนเดียวมาตลอดชีวิต แต่ก็สามารถติดเชื้อได้หากคู่ของตนเองมีเชื้ออยู่ก่อนแล้วโดยไม่รู้ตัว
HIV คือโรคที่รักษาได้ และ U=U คือความจริงที่เปลี่ยนชีวิตรักและการอยู่ร่วมกับผู้อื่นให้ดีขึ้นได้
ต้องการปรึกษาเชิงลึก ปรึกษาทีม Standbyyou แอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราได้ที่
LINE: @standbyyou https://line.me/R/ti/p/@standbyyou