สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคน! วันนี้เรามาคุยกันเรื่องไวรัสเฮอร์ปีส์ซิมเพลกซ์ หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า HSV กันดีกว่า รู้ไหมว่าจริงๆ แล้วมันคือโรคเริม เกิดจากไวรัส แล้วไวรัสตัวนี้แอบซ่อนตัวอยู่รอบ ๆ ตัวเราเยอะมาก แถมยังแพร่กระจายได้ง่าย ๆ อีกต่างหาก! แต่ไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวเราจะมาทำความรู้จักกับมันให้มากขึ้น

HSV ที่ทำให้เกิดโรคเริม มีกี่แบบนะ?

HSV มีอยู่ 2 แบบหลัก ๆ คือ:

1. HSV-1: ตัวนี้ชอบทำให้เกิดแผลที่ปากและริมฝีปาก เรียกว่า “แผลเย็น” นั่นเอง
2. HSV-2: ส่วนตัวนี้มักจะเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์

แต่ที่น่าสนใจก็คือ ทั้งสองตัวนี้สามารถสลับที่กันได้นะ! HSV-1 ก็ทำให้เกิดแผลที่อวัยวะเพศได้ ส่วน HSV-2 ก็สามารถทำให้เกิดแผลที่ปากได้เหมือนกัน

อาการเป็นยังไง?

หลายคนที่ติดเชื้อ HSV อาจไม่มีอาการเลย หรือมีอาการเบา ๆ แต่ถ้าเกิดอาการขึ้นมา ก็จะเป็นแบบนี้:

– เฮอร์ปีส์ที่ปาก: จะมีตุ่มน้ำหรือแผลที่ปากหรือริมฝีปาก บางทีก็มีไข้ เจ็บคอ ปวดหัว
– เฮอร์ปีส์ที่อวัยวะเพศ: จะมีตุ่มหรือแผลที่อวัยวะเพศหรือทวารหนัก เจ็บมาก ๆ อาจมีไข้ ปวดเมื่อยตามตัวด้วย

ติดต่อกันได้ยังไง?

HSV แพร่กระจายได้ง่ายมาก ๆ ผ่านการสัมผัสผิวหนังโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการจูบ หรือมีเพศสัมพันธ์ ที่น่ากลัวก็คือ แม้ไม่มีแผลให้เห็น ก็ยังแพร่เชื้อได้!

รักษายังไง?

แม้ว่า HSV จะยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่เราก็มีวิธีจัดการกับมันได้:

– กินยาต้านไวรัส: ช่วยลดความรุนแรงและระยะเวลาของอาการ
– บรรเทาอาการ: ใช้ยาแก้ปวด หรือยาชาเฉพาะที่
– ปรับการใช้ชีวิต: เช่น หลีกเลี่ยงแสงแดด ดื่มน้ำเย็น ๆ ใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ

ทำไมถึงกลับมาเป็นอีก?

HSV เป็นไวรัสที่แอบซ่อนตัวในเซลล์ประสาทได้ มันอาจถูกกระตุ้นให้กลับมาทำร้ายเราอีกได้ เช่น ตอนเครียด ๆ ไม่สบาย หรือมีประจำเดือน แต่อย่าเพิ่งกังวลไป! เมื่อเวลาผ่านไป อาการมักจะเบาลงและเกิดขึ้นน้อยลงด้วย

ป้องกันยังไงดี?

วิธีที่ดีที่สุดคือ หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ติดเชื้อ ใช้ถุงยางอนามัยเวลามีเพศสัมพันธ์ และที่สำคัญ ถ้ารู้ว่าตัวเองติดเชื้อ ก็ควรบอกคู่นอนด้วยนะ

สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่า HSV เป็นเรื่องปกติมาก ๆ หลายคนก็เป็นกัน ไม่ต้องอายหรือกังวลมากเกินไป แค่รู้จักดูแลตัวเองและระมัดระวังการแพร่เชื้อ ก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขแล้วล่ะ!

บทความที่เกี่ยวข้อง

  • ไดอะแฟรมเป็นอุปกรณ์คุมกำเนิดสำหรับผู้หญิงที่ไม่มีฮอร์โมน ใช้ร่วมกับสารฆ่าเชื้ออสุจิ สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ถึง 94% แต่ไม่ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จึงควรใช้คู่กับถุงยางอนามัยเสมอ

  • ยาฉีดคุมกำเนิดเป็นวิธีคุมกำเนิดที่สะดวกและมีประสิทธิภาพสูง ด้วยการฉีดฮอร์โมนเข้าสู่ร่างกายเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและไม่ต้องการทานยาทุกวัน ประกอบด้วยฮอร์โมนโปรเจสตินที่ช่วยยับยั้งการตกไข่ ทำให้มูกปากมดลูกข้นหนืด และบางเยื่อบุโพรงมดลูกเพื่อลดโอกาสการตั้งครรภ์

  • เมื่อพูดถึงเทศกาลลอยกระทง หลายคนต่างนึกถึงความสุข สนุกสนาน และการได้ใช้เวลากับคนพิเศษ 🥰 แต่ในค่ำคืนที่โรแมนติกนี้ สิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยคือความปลอดภัยในทุกๆ ด้าน รวมถึงความปลอดภัยทางเพศด้วย